เปิดโพยไอเทมลับ ช่วยลดสิวอุดตันและผดผื่น + ผิวแข็งแรง


ฮัลโหลลล สวัสดีเพื่อนๆทุกคนค่ะ วันนี้จูนจะมาเปิดโพยไอเทมที่จูนซุ่มใช้มาประมาณ 3-4 สัปดาห์ได้ และค้นพบว่ามันเวิร์คและค่อนข้างตอบโจทย์ปัญหาช่วงนี้ของจูนมากๆ ไม่ว่าจะเป็นพวกสิวอุดตันเอย ผดผื่นเอย รวมไปถึงยังช่วยทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นด้วย! เลยอยากจะมาแชร์มาเล่าให้ทุกคนฟังว่าแต่ละตัวมีข้อดีหรือข้อเสียยังไงบ้าง เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกสกินแคร์มาใช้สำหรับคนที่สนใจหรือมีปัญหาเดียวกับจูนบ่อยๆ งั้นเราอย่ารอช้า ไปดูภาพรวมของแต่ละตัวกันก่อนว่าไอเทมแต่ละตัวจะมีอะไรบ้าง

และนี่ก็คือไอเทมทั้งหมดที่จูนใช้ในช่วงนี้เลย ยิ่งเฉพาะตอนเป็นประจำเดือนแล้วสิวจะขึ้นง่ายมากๆ โดยเฉพาะสิวอักเสบ สิวอุดตันนี่เหมือนจะขยันนัดกันมาทุกเดือนเลยจริงๆ สิ่งที่เราทำได้คือจัดการความสะอาดบนผิวให้ดี และพยายามหลีกเลี่ยงใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองกับผิวง่ายค่ะ โดยไอเทมทั้ง 5 ตัวที่จูนอยากจะมาแนะนำให้เพื่อนๆรู้จักจะเน้นช่วยในเรื่องของเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว เพราะเมื่อผิวของเราแข็งแรงแล้ว พวกอาการแพ้ระคายเคืองต่างๆ ก็จะน้อยลงไปด้วย รวมไปถึงพวกสิวต่างๆ ที่ขึ้นทุกเดือนก็จะน้อยลงด้วยค่ะ จูนไม่ได้หมายความว่าใช้แล้วสิวจะหายไปเลยนะมันจะคงมีอยู่เพราะสิวฮอร์โมนเราทำอะไรกับมันไม่ได้มาก แต่มันจะขึ้นน้อยลงกว่าเดิมจนเรารู้สึกได้ค่ะซึ่งบางคนอาจจะใช้เวลามาก-น้อยแตกต่างกันไปตามสภาพผิวของแต่ละคนด้วยน้า เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เราไปเริ่มที่ตัวแรกกันก่อนเลยดีกว่า


KIEHL’S Calendula Herbal-Extract Toner Alcohal-Free
ตัวนี้เป็นโทนเนอร์ที่จูนแอบสนใจมาซักพักใหญ่ๆ แล้ว เพราะมันจุดเด่นตรงที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เลย ถ้าเทียบกับเมื่อก่อนนี้เวลาที่เราจะหาหรือซื้อโทนเนอร์มาใช้ก็ค่อนข้างจะกังวลและไม่สามารถหลีกเลี่ยงส่วนผสมของแอลกอฮอล์ได้เลย เพราะบางคนที่ผิวแพ้ง่ายมากพอใช้แล้วอาจเกิดอาการระคายเคืองบนผิวได้ง่ายๆ แต่เดี๋ยวนี้ก็มีให้เลือกหลากหลายมากขึ้น เลยลองสั่งมาจาก Shopee เป็นขวดไซส์ 40 ml.เป็นขนาดที่ปุ๊กลุกและน่ารักมากเว่อ ซึ่งความน่าสนใจของโทนเนอร์ตัวนี้เลยก็คือมีส่วนผสมของสารสกัดจากดอกคาเลนดูล่า (Calendula) และรากสมุนไพรคัมฟรี (Comfrey) เป็นที่รู้จักดีจากสรรพคุณบรรเทาอาการระคายเคือง และ Great Burdock ที่มีความอ่อนโยนต่อผิว และมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวเรียบเนียนพร้อมบำรุงให้ผิวของเราแข็งแรงขึ้นได้อีกด้วย อีกทั้งภายในขวดใสๆก็ยังมีกลีบของดอกดาวเรืองให้เราเห็นได้ภายในขวดเลย ถือว่าเป็นกิมมิคเล็กๆที่น่าสนใจมากๆ เลยกับไอเทมตัวนี้

มาพูดถึงเรื่องฟีลลิ่งการใช้กันบ้างดีกว่า ตัวนี้จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ออกแนวเก๊กฮวยอะหอมดี ส่วนเนื้อสัมผัสนั้นจะเป็นน้ำใสๆ มีสีเหลืองอ่อนเวลาที่จูนเทใส่สำลีจะมีส่วนนึงของกลีบดอกไม้ติดมาด้วย ให้ฟีลเหมือนเราใช้น้ำดอกดาวเรืองสดๆเลย หลังจากที่ลองใช้มาสักระยะรู้สึกว่าผิวสะอาดขึ้น และพวกสิวผดบริเวณหน้าผากกับแก้มค่อยๆน้อยลง อาจจะไม่ได้หายไปหมดสักทีเดียวแต่ก็ถือว่าดีขึ้นมากๆ ถ้าหมดขวดนี้แล้วคิดว่าจะลองสั่งขวดใหญ่มาใช้ต่อจ้า อิอิ

SKINSISTA Vitamin Series V Smooth
มาต่อกันตัวที่ 2 กันเลย ตัวนี้เป็นเซรั่มจากแบรนด์ Skinsista จูนไปเจอมาที่ร้าน Watsons ช่วงที่เขาจัดโปรเหลือ 490 บาท (จากปกติ 790 บาท และแอบเห็นว่ามีขายใน Lazada, Shopee ด้วยนะ รู้งี้สั่งออนไลน์ก็ดี5555) ข้อดีข้อแรกคือนางมีหลายสูตรให้เลือกเยอะมากๆ แต่ตัวที่จูนเลือกมาจะเป็นสูตรสำหรับคนที่มีปัญหาผิวอุดตันง่ายและรูขุมขนกว้าง มีส่วนช่วยในการปรับสภาพผิวให้พร้อมรับการบำรุงได้อย่างเต็มที่ และยังมีการแอดเพิ่มในส่วนของวิตามิน B9 เข้มข้น + สารสกัดจากสาหร่าย 3 สี จากเกาะเซจู ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวเก่า และลดการอุดตันบนผิวพร้อมกระชับรูขุมขนให้เรียบเนียน ปราศจากสารระคายเคืองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Paraben / Silicone / Fragrance / Alcohal คนผิวแพ้ง่ายใช้ได้เลยค่ะ และถ้าเรามองจากภายนอกจะเห็นได้ว่ามีเม็ดเล็กๆอยู่ข้างในด้วย เป็นเม็ด Vitamin E ทาซึมไปกับผิวเลย ซึ่งตัวแพ็คเกจเขาทำออกมาได้โอเคน่าใช้เลยทีเดียว


เนื้อเซรั่มของเขาจะเป็นแบบน้ำใสๆ เกลี่ยง่ายดี พอทาลงไปบนผิวแปปเดียวก็คือหายไปเลยเด้ออ คนผิวมันหรือผิวผสมน่าจะชอบเพราะเนื้อมันไม่หนักและบางเบามากกว่าที่คิด ตอนแรกคิดว่าน่าจะเนื้อแบบหนึบๆ หน่อย ปรากฏว่าซึมไวมาก และทำให้หน้าไม่มันด้วยดีมาก ถ้าถามถึงเรื่องผลลัพธ์ของตัวนี้ สิ่งที่ชอบและสัมผัสได้คือพวกรูขุมขน คืออาจจะไม่ได้เห็นชัดเจนมากขนาดนั้นนะ เพราะปัญหาพวกรูขุมขนหรือหลุมสิวนี่ใช้เวลานานพอๆกัน แต่รู้สึกได้ว่าเวลาส่องกระจกแล้วหน้ามันดูเรียบเนียนขึ้น ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลามากกว่านี้หน่อยน่าจะเห็นผลชัดเจน ส่วนในเรื่องของสิวอุดตันพอใช้มาถึงสัปดาห์ที่ 3 พวกสิวบริเวณคางเริ่มดีขึ้นแต่อาจจะไม่ได้หายไปทั้งหมด แต่โดยรวมก็ชอบอยู่นะ เพราะเนื้อมันซึมไว ไม่หนักผิวดี ราคากลางๆ เรียกได้ว่าเป็นไอเทมที่สามารถใช้เป็นตัวบำรุงได้ประจำทุกวันเช้า-เย็นเลย

SKINSISTA Vitamin Series V Young
มาต่อกันตัวที่ 3 ตัวนี้จูนได้มาพร้อมกับตัวข้างบน ปกติจะใช้คู่กับตัว V Smooth ที่เป็นเซรั่มกระชับรูขุมขน โดยขวดสีฟ้านี้เขาจะเป็นเซรั่มที่ช่วยในเรื่องของการเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว เหมาะกับคนี่มีปัญหาผิวแห้งหรือผิวขาดน้ำ ซึ่งปกติจูนเป็นคนที่ผิวมันแต่ขาดน้ำเพราะจะมีช่วงแก้มกับคางที่ชอบแห้งบ่อยๆ เลยชอบใช้สกินแคร์ที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นต่างๆ บำรุงควบคู่ไปด้วยเพื่อไปปรับสมดุลความมันบนผิวไม่ให้มันและแห้งจนเกินไป จุดเด่นของตัวนี้คือเขาจะมีส่วนผสมของวิตามิน E และสารสกัดจากพืชสมุนไพร 7 ชนิด ซึ่งช่วยในเรื่องความชุ่มชื้น พร้อมเสริมสร้างเกราะป้องกันให้ผิวแข็งแรง ลดอาการระคายเคืองและอาการอักเสบของผิวได้ดี พวกผดผื่นที่เป็นๆหายๆ ตัวนี้ทำให้ผดหาย ผิวเรียบเนียนขึ้น อีกทั้งยังปราศจากสารระคายเคืองบนผิว เลยเหมาะกับคนที่ผิวแพ้ง่ายด้วย

ผลลัพธ์ที่รู้สึกได้จากการใช้ตัวนี้ อันดับแรกเลยคือผิวนุ่มและชุ่มชื้นขึ้นมาก ผิวดูอิ่มน้ำ เปล่งปลั่งขึ้น พวกอาการแห้งบริเวณแก้มและเป็นขุยๆคือไม่มีเลย หน้ามันน้อยลงด้วย ถือว่าตอบโจทย์ปัญหาผิวที่จูนเป็นอยู่นะในเรื่องของความชุ่มชื้น+ปรับสมดุลผิว เพราะปกติจูนอยู่ในห้องแอร์แทบทุกวันเลยจะทำให้ผิวค่อนข้างแห้งเป็นบางจุดและมีแห้งลอกทำให้แต่งหน้ายากด้วย ถ้าใครที่มีปัญหาแบบเดียวกันตัวนี้ก็ถือว่าโอเคมากๆ เลยค่ะ รู้สึกตัวเองผิวแข็งแรงขึ้น

FYNE Skin Barrier Serum-in-Cream
มาถึงตัวที่ 4 กันบ้างง ตัวนี้เป็นครีมที่เน้นช่วยเรื่องเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิว ในขณะเดียวกันเขาก็ยังช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวของเราด้วย ถ้าใครมีอาการแพ้ครีมหรือต้องการพักหน้าและอยากหาครีมบำรุงที่ไม่มีสารระคายเคืองและพร้อมบำรุงไปในตัวจูนแนะนำตัวนี้เลย เนื้อครีมของเขาค่อนข้างซึมง่าย แต่ไม่ได้ซึมไวเท่าพวกเนื้อเซรั่มนะ แต่เบากว่าครีมบำรุงปกติทั่วไป ชอบตรงที่พอทาแล้วรู้สึกผิวนุ่มขึ้นหลังจากตื่นนอน รู้สึกผิวดูอิ่มน้ำมากก ตัวนี้เขาจะมีสารสกัดจากใบบัวบกด้วย ที่ปกป้องผิวจากอาการระคายเคืองและเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิวค่ะ ปราศจากสารระคายเคืองต่างๆ จึงเหมาะกับทุกสภาพผิวเลยค่ะ

เนื้อสัมผัสของเขาจะเป็นเนื้อครีมสีขาว บางเบา พอทาไปแล้วไม่รู้สึกถึงความเหนอะหนะ แล้วพอปล่อยทิ้งไว้ซักพักเนื้อครีมเขาจะค่อยๆซึมเข้าผิวไปเลยค่ะ ถ้าใครชอบครีมบำรุงที่ไม่หนักผิวเนื้อบางเบาน่าจะชอบ โดยเฉพาะคนที่ผิวมันเป็นสิวเหมือนจูนน่าจะปลื้ม555 เพราะจะเป็นคนที่ไม่ชอบอะไรที่ทำให้รู้สึกหนักหน้าเพราะกลัวว่ามันจะไปอุดตันผิวและอาจทำให้สิวขึ้นเพิ่มเข้าไปอีก ถ้าสรุปแบบสั้นๆ ตัวนี้คือเดอะเบสท์ในเรื่องของผิวอ่อนแอแพ้ง่าย ต้องการบำรุงให้ผิวแข็งแรงในขณะเดียวกันก็ยังให้ฟีลลิ่งความชุ่มชื้นไปด้วยค่ะ

SOME BY MI Truecica Mineral100 Claming Suncream
มาถึงตัวสุดท้ายกันแล้วว วันนี้จูนจะขอปิดท้ายด้วยไอเทมที่จำเป็นและคนส่วนใหญ่มักจะละเลยนั่นก็คือครีมกันแดดนั่นเองง ซึ่งกันแดดตัวนี้มีความน่าสนใจตรงที่เขามีส่วนผสมมาจากธรรมชาติ และไม่มีสารอันตรายต่อผิวด้วย และอีกข้อนึงคือแบรนด์นี้เป็นแบรนด์ที่ออกแบบแพ็คเกจน่าใช้มากถึงมากที่สุด เป็นแบรนด์ของเกาหลีชื่อว่า Some by mi บวกกับราคาที่ไม่ค่อยแรงมากเลยตัดสินใจลองสั่งซื้อมาใช้ และจากที่ใช้มาได้ประมาณ 2 อาทิตย์ รู้สึกว่าชอบตรงที่มันเป็นกันแดดที่ไม่ทำให้ผิวลอยและช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ไม่ได้ทำให้ผิวมันนะ เกลี่ยง่ายดี พอทาไปก็กลืนไปกับสีผิวของเราเลยค่ะ แล้วก็ตัวนี้เขาจะไม่มีส่วนผสมของพาราเบน สีสังเคราะห์และน้ำหอมนะ

เนื้อครีมของเขาจะเป็นสีขาวแบบนี้เลย เนื้อครีมจะค่อนข้างบางเบา เวลาเกลี่ยคือเกลี่ยง่ายมาก ทาไปแล้วไม่ทำให้ผิวขาวลอยด้วยนะ ผู้ชายก็ใช้ได้ ผู้หญิงแต่งหน้าก็ใช้ได้สบายใจหายห่วง โดยส่วนผสมหลักๆของครีมกันแดดตัวนี้คือ Truecica™ 160,200ppm ที่ได้มากจากสารสกัดจากธรรมชาติหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น Astemisa Princeps Extract, Melaleuca Alternifolia Leaf Water (ชาเขียว), Centella Extract (ใบบัวบก) และ Centella Powder Extract เป็นต้น ตัวนี้จึงกลายมาเป็นกันแดดลูกรักอีกตัวที่ค่อนข้างตอบโจทย์มนุษย์ผิวแพ้ง่ายเป็นสิว เพราะเขามีสารสกัดหลายตัวที่ช่วยในเรื่องของการปกป้องและปลอบประโลมผิวที่ระคายเคืองง่ายหลายตัวเลย และมีค่ากันแดดสูงถึง SPF50+ PA++++ ถือว่าเป็นค่าที่สูงและปกป้องผิวได้อย่างยาวนาน แต่ถึงยังไงเราก็ควรทากันแดดซ้ำทุก 2 ชั่วโมงหากอยู่ในบริเวณที่แจ้งหรือต้องเจอกับแดดบ่อยๆ


BEFORE AND AFTER
มาดูภาพก่อนและหลังใช้กันบ้างดีกว่า ภาพ Before นี้เป็นช่วงที่จูนใช้ตอนกำลังใกล้เป็นประจำเดือนพอดี สิวเลยขึ้นที่คางค่อนข้างเยอะซึ่งจริงๆ มันถือเป็นเรื่องปกติในทุกๆ เดือนของจูนไปแล้ว แต่พอหลังใช้ไปประมาณ 3-4 อาทิตย์พวกสิวที่คางมันเริ่มแห้งและลดลงไวกว่าปกติจนสัมผัสได้เลย5555 แล้วพวกรูขุมขนก็แลดูกระชับขึ้นค่ะ


***ทั้งนี้แล้วผลลัพธ์ที่ได้อาจขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน รวมไปถึงสภาพแวดล้อมต่างๆ ด้วยเด้ออ ดังนั้นควรเช็คว่ามีส่วนผสมตัวไหนที่เราแพ้บ้างหรือเปล่าหรือทดสอบลองทาที่ใต้ท้องแขนก่อนใช้จริงดูก่อนจะดีที่สุดค่ะ***


สำหรับวันนี้จูนต้องขอตัวลาไปก่อนน้าาา
แล้วเจอกันใหม่กระทู้หน้าว่าจะมีอะไรมาอัพเดทกันต่อ รอติดตามกันได้เลยจ้า xoxo

ความคิดเห็น