[รีวิว+แกะกล่อง] เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Philips SpeedPro FC6724 สวย ทันสมัย ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา!!!

 

ฮาโหลววว สวัสดีค่ะทุกคน
วันนี้จูนจะพาทุกคนมารู้จักกับไอเทมตัวใหม่
ที่จูนเพิ่งได้ลองใช้ครั้งแรกในบทบาทแม่บ้านจำเป็น 
เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้มีเวลาทำความสะอาดบ้านมากเท่าไหร่
จึงทำให้บ้านมีฝุ่นค่อนข้างเยอะถึงเยอะมาก 
และจริงๆ จูนก็เป็นคนนึงที่ค่อนข้างแพ้ง่ายอยู่แล้วด้วย
ไม่ว่าจะพวกฝุ่น หรือขนสัตว์หมาแมวต่างๆ
ผื่นจะขึ้นค่อนข้างง่ายมากๆๆๆ และคันด้วย
ครั้งนี้เลยต้องจริงจังในการทำความสะอาดนิดนึง
โดยเฉพาะเรื่อง “ฝุ่น” นี่บอกเลยว่าสำคัญมากๆ 
เพราะอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดเป็นโรคภูมิแพ้ได้เหมือนกันค่ะ
โอเคมาเข้าเรื่องเลย ในวันนี้จูนเลยอยากจะพาทุกคนมารู้จัก
กับเจ้าไอเทมตัวนึงที่บอกเลยว่าใช้งานง่าย ดูดแรงและไร้สายอีกด้วย 
ซึ่งจะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจาก....

Philips SpeedPro FC6726 

ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นเด็ดๆ ที่เหมาะกับแม่บ้านยุคใหม่ 
ส่วนตัวได้ลองใช้มาสักพักแล้วรู้สึกว่าค่อนข้างตอบโจทย์
คนที่ไม่อยากใช้เวลาในการทำความสะอาดนานๆ 
อันนี้คือแค่ดูดๆ และใช้เวลาเพียงไม่นานก็สะอาดเหมือนเพิ่งกวาดบ้านเสร็จมาใหม่ๆ

.


ถ้าจะสปอยให้ฟังกันขนาดนี้แล้ว... 
เราไปทำความรู้จักเจ้าเครื่องดูดฝุ่นไร้สายตัวนี้ให้มากขึ้นกันดีกว่า 
ตามไปดูพร้อมๆกันเลยค่ะ


และนี่ก็คือโฉมหน้าของเครื่องดูดฝุ่นฟิลิปส์ที่จูนได้ทำการประกอบเรียบร้อยแล้ววว อิอิ
ซึ่งบอกเลยว่าแกะออกมาประกอบเองไม่ถึง 1 นาทีด้วยซ้ำก็เสร็จแล้วค่ะ
พร้อมใช้งานทันที แต่อย่าเพิ่งตกใจเดี๋ยวขั้นตอนต่อไป
จูนจะไปเปิดกล่องให้ดูกันว่าภายในกล่องเขาจะให้อะไรเรามาบ้าง
ตามไปดูกันต่อเลยจ้า

ภายในกล่องของเขาที่ให้มาจะมีดังนี้เลยค่ะ

1. หัวดูด 180 องศา + ไฟLED

2. หัวดูดแบบแปรงปัดเทอร์โบ

3. สายชาร์จ

4. ด้ามตัวต่อพร้อมมีแปรงในตัว

5. คู่มือการใช้งาน

6. ตัวเครื่องที่มาพร้อมมอเตอร์ PowerBlade

7. ที่ยึดไว้กับผนัง เอาไว้สำหรับเก็บเครื่องดูดฝุ่น



ขั้นตอนต่อมาคือการประกอบเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย
โดยตัวแรกที่จูนจะมาลองใช้ให้ทุกคนดูตัวแรก
จะเป็นหัวดูดแบบ 180 องศา ที่มีไฟ LED ในตัว 
ข้อดีของมันคือช่วยให้เรามองเห็น
พวกฝุ่น เศษขยะเล็กๆ หรือเส้นผมได้ชัดขึ้น 
แม้จะอยู่ในที่แสงน้อยก็ตาม!! 
(เดี๋ยวจะมีภาพประกอบให้ดูตอนใช้ด้วยค่ะ)



ถัดมาจะเป็นในเรื่องของการเปิดใช้งานกันบ้างงง
โดยปุ่มเปิดเครื่องจะอยู่ด้านบนสุดของตัวเครื่องเลยค่ะ
ด้านบนจะมีแถบแบตเตอรี่แสดงให้เราเห็นว่าตอนนี้ตัวเครื่องมีแบตเหลือเท่าไหร่
ส่วนด้านล่างที่เป็นขีดๆ สีขาวสองเส้น คือระดับความแรงของการดูด
โดยจะแบ่งออกเป็นสองระดับ ระดับแรกจะใช้งานได้ 40 นาที
ส่วนระดับที่สองคือระดับ Turbo จะใช้งานได้ 20 นาที
มาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 21.6V


พอเปิดเครื่องแล้วก็เริ่มสวมบทบาทเป็นแม่บ้านจำเป็นได้เลยฮะ!!
จะสังเกตว่าตัวเครื่องไม่ได้หนักมาก สามารถใช้มือเดียวถือได้เลยค่ะ



จะเห็นได้ว่าหัวดูดตัวนี้จะมีไฟ LED ที่สามารถช่วยให้เรามองเห็นพวกเศษฝุ่น
เส้นผมต่างๆ แม้จะอยู่ในที่ที่มีแสงน้อย ในข้อนี้จูนถือว่าตอบโจทย์และโดนใจมากๆเลยค่ะ




ถัดมาหัวดูดตัวที่สองจะเป็นหัวดูดแบบแปรงปัดเทอร์โบขนาดเล็ก
เหมาะกับการใช้บริเวณพื้นผิวที่อ่อนนุ่ม เช่น บริเวณเบาะนั่ง หรือพรมค่ะ


ส่วนถ้าจะใช้ดูดตามซอกเล็กๆหรือพื้นที่แคบๆ
แนะนำว่าให้ถอดตัวด้ามออก และก็ใช้หัวดูดที่ติดมากับตัวเครื่องได้เลยย
บอกเลยว่าพลังในการดูดของเครื่องนี้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว



มาลองดูภาพก่อนและหลังใช้กัน ส่วนพื้นที่ตรงนี้คือบริเวณขอบพื้นประตูด้านล่าง
ที่จะมีพวกเศษฝุ่น เส้นผม และขี้จิ้งจก... เต็มไปหมด
ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือพวกเศษฝุ่น เส้นผมต่างๆเอย หายไปแทบหมด
ส่วนที่เห็นเป็นคราบคล้ายๆ ฝุ่นสีขาวนั่นไม่ใช่ฝุ่นนะคะทุกคนมันคือรอยสีสเปร์ยค่ะ555



ลองมาดูดฝุ่นในรถกันบ้าง อันนี้พอเห็นว่าเป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย
สิ่งแรกที่จูนอยากจะเอามาทดลองใช้คือการดูดฝุ่นในรถนี่แหละ 
และผลลัพธ์ที่ได้ก็คือดีกว่าที่คาดเอาไว้เยอะเลย 
สามารถดูดได้ตามพื้นที่แคบๆ หรือจะตามเบาะก็ได้หมด 
ช่วยให้รถของเราดูสะอาดขึ้น แถมไร้ฝุ่นอีกต่างหาก



ตอนนี้จะเห็นได้ว่าจากที่ทดลองใช้ไปประมาณ เกือบๆ 25-30 นาทีเลย
ไฟจะลดลงมาเหลืออยู่ 2 ขีด ซึ่งจากที่จูนเกริ่นไปก่อนหน้านี้ว่า
เครื่องดูดฝุ่นไร้สายตัวนี้จะสามารถใช้งานได้ประมาณ 40 นาที
แต่ถ้าเราใช้โหมด Turbo ก็จะสามารถใช้งานได้ประมาณ 20 นาทีค่ะ



จากนั้นพอเสร็จภารกิจแม่บ้านจำเป็นแล้ว จูนก็นำเจ้าเครื่องดูดฝุ่นมาชาร์จแบตต่อ
ในส่วนตรงนี้ชอบตรงที่หัวชาร์จตรงตัวเครื่องจะเป็นแบบแม่เหล็ก 
ซึ่งพอเราเอาตัวหัวชาร์จเข้าไปใกล้ๆก็จะดูดเข้าไปทันที มันดูทันสมัยมากกก



ก็จบกันไปแล้วว ในส่วนของเรื่องการชาร์จแบตเตอรี่
ของเจ้าเครื่องดูดฝุ่น Philips SpeedPro ตัวนี้
ในส่วนต่อไปจูนจะไปพูดถึงการถอดถังเก็บขยะ
และวิธีการทำความสะอาดในเบื้องต้นกันค่ะ



วิธีการถอดถังเก็บขยะก็ไม่ยุ่งยากเลยค่ะ
เริ่มจากกดปุ้มที่ตัวข้างถัง แล้วดึงตัวถังเก็บให้ออกมาจากตัวเครื่อง
จากนั้นเปิดฝาขึ้น แล้วเราก็จะเห็นเศษขยะต่างๆ ที่อยู่ภายในถัง
จากนั้นเราก็นำไปทิ้งใส่ถังขยะให้เรียบร้อยได้เลยค่ะ


ส่วนวิธีทำความสะอาดแผ่นกรองฝุ่นนั้นทำได้ง่ายๆ ตามนี้เลยค่ะ
เมื่อถอดตัวกรองออกจากเครื่องแล้ว จะสังเกตเห็นแผ่นกรองฝุ่นด้านล่างสีส้ม
ให้ดึงออกมาได้เลยค่ะ หลังจากนั้นนำไปทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาดปกติ
จากนั้นให้นำไปตากให้แห้งสนิท ค่อยนำกลับไปใส่ที่เดิมและใช้งานได้ปกติ 
แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จแล้วค่ะ^^


โอเคก็จบกันไปแล้วสำหรับการรีวิวเครื่องดูดฝุ่น
ที่เหมาะกับคุณพ่อบ้านและแม่บ้านสมัยใหม่
ซึ่งตัวนี้จูนว่าค่อนข้างตอบโจทย์คนที่มีเวลาทำความสะอาดบ้านค่อนข้างจำกัด
และเป็นไอเทมที่ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก
ถือว่าเจ้า Philips SpeedPro FC6726
ก็เป็นอีกตัวเลือกนึงที่น่าสนใจไม่น้อยเลยค่ะ
ซึ่งถ้าเพื่อนๆคนไหนอ่านรีวิวจูนแล้วสนใจอยากดูรายละเอียด
หรืออยากลองสั่งซื้อมาใช้ดูบ้างก็สามารถเข้าไปดูได้ที่

HomePro Online Store : https://bit.ly/3awoQS6
Robinson Online Store : https://bit.ly/2Q5smsY
PowerBuy Online Store : https://bit.ly/3kYG7Iy

และสำหรับวันนี้จูนต้องขอตัวลาก่อนไปก่อน
ไว้จะมารีวิวไอเทมอะไรที่น่าสนใจมาให้อ่านกันอีกค่ะ
ขอบคุณและสวัสดีค่ะ xoxo

ความคิดเห็น