ช่วงนี้ขอบอกเลยว่าเป็นอะไรที่กำลังอินกับแป้งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแป้งฝุ่น แป้งพัฟ บลาๆ และจริงๆเป็นเดือนที่จูนได้ลองเปลี่ยนมาใช้แป้งแบบพัฟครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา จากปกติเป็นคนที่ชอบใช้แป้งฝุ่นมากกว่าเพราะรู้สึกมันไม่หนักผิว เบาดี แต่พอได้ลองทดลองใช้ก็รู้สึกเปลี่ยนความคิดนั้นไปเลย ซึ่งเจ้าแป้งพัฟที่จูนพูดถึงนั้นก็คือ
BK ACNE Shimmer Matt Powder SPF35 ตัวนี้เลย เป็นครั้งแรกที่ทางแบรนด์ได้ส่งมาให้จูนได้ทดลองใช้ถึง 3 เฉดสี!! ซึ่งตอบโจทย์ตั้งแต่คนที่มีผิวขาวไปจนผิวสองสีเลยค่ะ เอาหล่ะทีนี้เรามาดูกันบ้างดีกว่ากว่าเจ้าแป้งพัฟตัวนี้จุดเด่นที่น่าสนใจยังไงบ้างและควรตำต่อหรือไม่?? เราตามไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ
แพ็คเกจของเขาจะมาแบบโทนสีดำ เทาๆเหน่อย ดูแล้วมีความเก๋และเท่ดี
ซึ่งรุ่นนี้เขาได้ออกมาทั้งหมด 3 เฉดสีด้วยกัน ได้แก่
- เบอร์ 01 (สี Light) เหมาะกับคนผิวขาว
- เบอร์ 02 (สี Medium) เหมาะกับคนผิวขาวโทนเหลือง
- เบอร์ 03 (สี Honey) เหมาะกับคนผิวสองสี
โดยด้านในกล่องเขาจะมีมาให้ 2 อย่างได้แก่ ตัวแป้งกับตัวพัฟค่ะ แพ็คเกจของเขาจะเป็นสีดำอมเทาเรียบๆ เนื้อสัมผัสของเขาพอจับแล้วมีความด้านๆ ไม่ลื่นมือ มีความหนาพอประมาณ แบ่งออกเป็น 2 ชั้นคือชั้นตัวแป้งกับชชั้นที่ใส่ตัวพัฟค่ะ
มาดูในมุมใกล้ๆกันบ้าง จูนค่อนข้างชอบตัวแพ็คเกจของเขานะดูแข็งแรงไม่ก๊องแก๊ง และเป็นขนาดที่จับแบบพอดีมือ ด้วยความที่เนื้อของเขาเป็นแบบด้านเลยทำให้จับแล้วไม่ลื่นไม่ร่วงง่ายค่ะ ส่วนด้านหลังจะมีรูระบายไว้ให้ด้วยเพื่อที่ตัวพัฟจะได้ไม่อับชื้นค่ะ
แอบมาลองปาดให้ดูว่าทั้ง 3 เฉดสีนั้นมีความแตกต่างกันประมาณไหน ซึ่งจากที่จูนได้ทดลองเล่น ผิวของจูนเป็นคนที่ผิวขาวออกโทนเหลืองดังนั้นสีที่เหมาะที่สุดจะเป็นเบอร์ 01 กับ เบอร์ 02 คือใช้ได้ทั้งสองสี และจากรูปจะเห็นได้ว่าสีเบอร์ 02 ค่อนข้างกลืนไปกับผิวจูนเลย ส่วนใครที่ผิวออกขาวหน่อยแนะนำเป็นสีเบอร์ 01 ส่วนคนที่มีผิวสองสีหรือผิวเข้มขึ้นมาหน่อยจูนแนะนำให้ใช้เป็นเบอร์ 03 เลยจ้า
จากที่จูนได้เกริ่นไปก่อนหน้านี้ว่าตัวนี้เขาจะมี
จุดเด่นยังไงบ้างและ
แตกต่างจากแป้งพัฟทั่วไปยังไงบ้าง ก่อนอื่นจูนขอสรุปตามความเข้าใจออกเป็นข้อๆ ให้ดังนี้ค่ะ
- ตัวนี้เป็นแป้งผสมรองพื้นแบบโปร่งแสง
- เป็นแป้งที่ช่วยลดสิวเนื่องจากเขามีส่วนผสมของ Tea Tree Oil ที่ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว
- มีเทคโนโลยีที่ชื่อว่า Excellent Fix Powder จากประเทศญี่ปุ่น ช่วยกระจายแสง พร้อมอำพรางรูขุมขน กันน้ำ/กันเหงื่อ และยังช่วยให้หน้าไม่ดรอประหว่างวัน
- ตัวนี้มีส่วนผสมของ Shimmer Pearl ด้วย ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส
- ใช้ซิลิโคนที่เป็นแบบ Non-Comedogenic คือไม่ทำให้เกิดการอุดตันบนผิว
- ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้สูงถึง SPF35
อย่าเสียเวลาเยอะ เรามาลองทาที่ผิวดูบ้างดีกว่าว่าเป็นยังไง
จะเห็นได้ว่าผิวของจูนจะมีรอยสิว รอยแดงอยู่ประมาณนึง ผิวจูนจะออกเป็นโทนผิวขาวเหลือง ถัดมาอีกภาพหลังากลงแป้งไปคือเห็นได้ชัดว่าพวกรอยสิวดูแทบจะกลืนหายไปหมด ผิวดูขาวและกระจ่างใสขึ้น เนื้อแป้งไม่หนักผิวเลย ผิวดูเนียนขึ้นมากๆๆค่ะ
อันนี้คือภาพหลังจากที่ลงแป้งเสร็จ
จะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนถ้าเทียบกับภาพ Before ด้านบน ตัวนี้เขาช่วยอำพรางพวกรูขุมขนมห้ดูเรียบเนียนขึ้น และกลบพวกรอยสิวได้เอาอยู่ประมาณนึงเลยค่ะ ถือว่าตอบโจทย์มนุษย์สิวอย่างเรามากๆๆๆ
หลังจากลงแป้งจูนแอบไปเขียนคิว ปัดแก้ม และทาปากมา คือเรียกได้ว่าเป็นลุคที่แต่งบ่อยมากๆๆ คืองานผิวที่ได้จะออกมาละมุนๆ ไม่หนักผิวใดๆ
เหมาะกับคนที่ชอบเนื้อแป้งที่เบาๆ ไม่หนักผิว แต่อยากได้การปกปิดในระดับนึงคือมีรอยสิวเยอะๆๆเหมือนจูน บอกเลยว่าต้องเลิฟกับเจ้าไอเทมตัวนี้แน่นอน ถ้ายิ่งใช้หลังลงรองพื้นบางๆนะ คือได้งานผิวที่สวยไม่แพ้รองพื้นดังๆเลยค่ะ
สรุปง่ายๆเลยว่าตัวนี้ตอบโจทย์คนที่เป็นสิวง่ายแต่ต้องแต่งหน้าทุกวัน จากที่จูนได้ลองใช้แล้วไม่ทำให้สิวเพิ่ม ให้งานผิว Matt เเต่ไม่ดูเเห้ง ไม่ตกร่องไม่เป็นคราบ ผิวสวยแบบไม่โป๊ะ และสามารถใช้ได้ทุกวันเลย คุมมันกลางๆนะ แต่ปกปิดดีมากค่ะ ลืมบอกไปเลยว่าราคา 389 บาท หาซื้อง่ายได้ตามร้าน Watsons, Eveandboy หรือ Konvy ค่ะ สำหรับวันนี้จูนต้องขอตัวลาไปก่อน ไปเจอกันใหม่ครั้งหน้านะจ๊ะ สวัสดีและขอบคุณค่ะ xoxo
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น